10 เทรนด์กาแฟ ที่น่าจับตามองที่เป็นที่นิยมกันทั่วโลก ในปี 2024
กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่เปลี่ยนจากเครื่องดื่มยามเช้าให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมทั่วโลก กาแฟมีต้นกำเนิดมาจากภูมิภาคเอธิโอเปียในแอฟริกา ในตำนานเล่ากันว่า คนเลี้ยงแพะชื่อคาลดีค้นพบเมล็ดกาแฟเมื่อเขาเห็นแพะของเขามีความกระตือรือร้นหลังจากกินผลของต้นกาแฟ ต่อมาผลกาแฟถูกนำไปทดลองต้มน้ำร้อนและกลายเป็นเครื่องดื่มที่กระตุ้นสมองและให้พลังงาน เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพาไปดู 10 เทรนด์กาแฟ ที่น่าจับตามองที่เป็นที่นิยมกันทั่วโลก ในปี 2024 แต่ก่อนที่เราจะรู้ เราควรรู้เรื่องประโยชน์ของกาแฟก่อน
ประโยชน์ของกาแฟ มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น การกระตุ้นระบบประสาท การเพิ่มพลังงาน และการช่วยในการเผาผลาญไขมัน อย่างไรก็ตาม เราควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม เพราะการดื่มกาแฟมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น นอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูง และการเสพติดคาเฟอีน กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีความสำคัญในวัฒนธรรมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกาแฟเอสเปรสโซที่เข้มข้น ลาเต้ที่นุ่มนวล หรือกาแฟสกัดเย็นที่สดชื่น เราสามารถเลือกดื่มตามความชอบและสไตล์ของตัวเอง การดื่มกาแฟไม่เพียงแค่เพื่อความสดชื่น แต่ยังเป็นการสัมผัสประสบการณ์และการค้นพบรสชาติใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น
บทความนี้บลูมอคค่าเราจะพามาจับตามอง 10 เทรนด์กาแฟ ที่น่าสนใจในปี 2024 ตั้งแต่พฤติกรรมผู้บริโภค ไปสู่กระแสของคาเฟ่ ในปัจจุบัน และอนาคตมีอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย เพราะเราได้เข้าสู่ยุคแห่งเทคโนโลยีมากขึ้นทุกวัน ที่เข้ามีอิทธิพลทำให้เกิดวัฒนธรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้น
คนที่ชอบดื่มกาแฟเย็น อาจเป็นเพราะเนื้อสัมผัสที่นุ่มลื่นและความเป็นกรดต่ำของกาแฟสกัดเย็น และดูเหมือนว่ากาแฟจะยังคงนิยมอย่างต่อเนื่อง มีข้อมูลนี้สำคัญ ความนิยมของกาแฟสกัดเย็นเพิ่มขึ้น 45% ตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 และเพิ่มขึ้นประมาณ 300% ตั้งแต่ปี 2016 ตามรายงานของสมาคมกาแฟแห่งชาติ
10 เทรนด์กาแฟ ที่น่าจับตามองในปี 2024
แต่การดื่มกาแฟเป็นเรื่องที่กลายเป็นชีวิตประจำวันของหลาย ๆ คน แต่อย่างที่เราทราบกันดีว่าสิ่งที่ได้รับความนิยมนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สิ่งสำคัญคือต้องติดตามเทรนด์กาแฟทั้งหมดอยู่ตลอด โชคดีที่บลูมอคค่าเรา ได้รวมรวบกระแสยอดนิยมของกาแฟทั่วโลก และสามารถช่วยให้เราค้นพบประสบการณ์กาแฟที่ดีที่สุดได้ เพื่อเรียนรู้สิ่งที่คาดหวังจากโลกกาแฟในปีนี้ ให้เราสามารถรู้เรื่องเกี่ยวกับกาแฟมากขึ้น มาดู 10 เทรนด์กาแฟ ที่น่าจับตามองในปี 2024
1. กาแฟสกัดเย็น (Cold Brew Coffee)
ตอนนี้วิธีการชงกาแฟใหม่ ๆ กำลังมาแรง 2 วิธีที่ได้รับความนิยมที่สุดในหมู่ผู้ดื่มกาแฟทั้งแบบดั้งเดิมและยุคใหม่คือ กาแฟเย็นและกาแฟไนโตร กาแฟเย็นเป็นเวอร์ชันที่หวานขึ้น ลื่นขึ้น และขมน้อยกว่ากาแฟร้อน โดยที่กาแฟเย็นได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สำหรับกาแฟเย็น เจ้าของร้านกาแฟต้องมีวิธีการชงที่สร้างสรรค์และมีตารางเวลาที่เหมาะสม กาแฟเย็นใช้เวลาชงนานกว่าวิธีอื่น ๆ และต้องมีพร้อมเสิร์ฟเพื่อให้สามารถทำกำไรได้อย่างแท้จริง สำหรับกาแฟเย็นไนโตร พนักงานร้านจะชงคล้ายกับกาแฟเย็นทั่วไป แต่เมื่อชงเสร็จแล้วจะนำไปใส่ในถังและติดตั้งให้เสิร์ฟได้จากแทป การมีถังเก็บกาแฟไนโตรที่มองเห็นได้ในร้านจะทำให้เครื่องดื่มนี้เป็นที่นิยมมากขึ้นและดึงดูดความสนใจของผู้ดื่มรุ่นใหม่
2. กาแฟจากการหมักโคจิ (Koji Fermented Coffee)
กาแฟหมักโคจิได้รับความนิยมอย่างมากในวงการกาแฟ เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 กาแฟประเภทนี้มีขั้นตอนเพิ่มเติมในการกระบวนการผลิตเมล็ดกาแฟปกติ โดยในกรณีนี้จะมีการเติมสปอร์ของเชื้อราโบราณจากญี่ปุ่นลงในเมล็ดกาแฟสีเขียวก่อนการคั่ว เมล็ดกาแฟจะถูกปล่อยทิ้งไว้หลายวันเพื่อให้เชื้อราได้หมัก แฟน ๆ ของกาแฟโคจิพบว่ามันทำให้การคั่วเข้มมีรสชาติที่นุ่มนวลขึ้น และลดความเป็นกรดของเมล็ดกาแฟคั่วอ่อน
3. นมทางเลือก (Milk Alternatives)
อีกหนึ่งเทรนด์ที่ไม่ได้ใหม่มากนักคือการใช้ “นมที่ไม่ใช่นมวัว” ในกาแฟ การหันมาใช้นมจากพืชเข้ากันได้ดีกับเทรนด์สุขภาพที่มาแรงต่อเนื่องมาหลายปี ร้านกาแฟและคาเฟ่ส่วนใหญ่มีการเสนอนมทางเลือกอย่างเช่น นมโอ๊ตและนมถั่วเหลืองอยู่แล้ว ดูเหมือนว่าเทรนด์นี้จะไม่มีทีท่าที่จะชะลอตัวลง นมทางเลือกสำหรับกาแฟกำลังมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น โดยบริษัทต่างๆ ผลิตครีมเทียมที่ทำจากพืชซึ่งผสมกับกาแฟได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ นมมันฝรั่งยังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะนมทางเลือกใหม่ นมโอ๊ตเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เมื่อนึกถึงนมทางเลือกที่คนรุ่นใหม่และคนที่หวังจะมีสุขภาพดีใช้กัน เมื่อเลือกนมทางเลือกที่จะเสนอตามร้าน เจ้าของร้านควรเปิดใจและเลือกสิ่งที่ทุกคนชื่นชอบ ตราบใดที่นมทางเลือกนั้นทำหน้าที่คล้ายนมวัว มันก็ควรจะใช้งานได้ดีกับเครื่องดื่มกาแฟ
4. กาแฟใส่เนย (Buttered Coffee)
กาแฟใส่เนยเป็นเทรนด์ยอดนิยมที่กำลังแพร่หลายอยู่ในวงการคนดังและนักกีฬามืออาชีพ การใส่เนยหนึ่งช้อนโต๊ะลงในกาแฟดำหนึ่งถ้วยนั้นเชื่อว่าจะทำให้คาเฟอีนมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยดึงสารอาหารตามธรรมชาติในกาแฟออกมาให้มากขึ้นด้วย นอกจากนี้เมื่อใส่เนยลงในกาแฟ มันยังทำหน้าที่เป็นตัวกดความอยากอาหารรอง ทำให้ง่ายขึ้นที่จะงดอาหารเช้า บริษัทที่เข้าร่วมในเทรนด์นี้สามารถเพิ่มราคาของพวกเขาอย่างมากจากส่วนผสมเพิ่มเติมนี้ ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ที่อยู่ยาวหรือไม่ก็คงต้องรอดูกันต่อไป
5. ร้านกาแฟทันสมัย (modern coffee shop)
ในอดีต คนที่ดื่มกาแฟมักจะอยากนั่งในพื้นที่ที่มีสไตล์หลากหลายและรู้สึกเหมือนอยู่ในร้านกาแฟจริง ๆ เทรนด์นี้ได้หมดไปนานแล้ว ตอนนี้ผู้คนต้องการความสบายเมื่อพวกเขากำลังเพลิดเพลินกับกาแฟ ไม่ว่าจะดื่มคนเดียวหรือกับเพื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงร้านกาแฟ โต๊ะขนาดครอบครัว แสงธรรมชาติ และบรรยากาศที่อบอุ่นจะกลายเป็นข้อกำหนดเร็ว ๆ นี้
6. กาแฟเพื่อสุขภาพ (Health-Conscious Coffee)
อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้เป็นเทรนด์ในวัฒนธรรมป๊อปมาอย่างยาวนาน และกาแฟในฐานะหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีการบริโภคมากที่สุดก็ไม่ได้ยกเว้น แบรนด์อย่าง Purity Coffee กำลังให้ความสำคัญกับสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารเสริมสุขภาพอื่น ๆ ในกระบวนการผลิตและการตลาดของพวกเขา บางแบรนด์ก้าวไปอีกขั้นโดยการเพิ่มส่วนผสมเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ร้านกาแฟยังนำเสนอเครื่องดื่มทางเลือกเช่นมัทฉะลาเต้อีกด้วย
7. การท่องเที่ยวกาแฟ (Coffee Tourism)
กาแฟได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่ ไม่ใช่แค่เพราะคาเฟอีน แต่เพราะประสบการณ์ที่มาพร้อมกับมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นมิลเลนเนียลที่พบว่าการดื่มกาแฟเป็นประสบการณ์ที่ดีกว่าเมื่อได้สัมผัสในบรรยากาศที่แท้จริง การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อค้นหาร้านกาแฟและฟาร์มกาแฟที่ดีที่สุดได้กลายเป็นเหมือนการแบกเป้เที่ยวในยุโรปของยุคปัจจุบัน
8. กาแฟบรรจุขวด (Bottled Coffee)
กาแฟกระป๋องและขวดเคยมีให้เลือกแค่หนึ่งหรือสองแบบเท่านั้น ทำให้ผู้บริโภคไม่ค่อยพึงพอใจนัก อย่างไรก็ตาม ในสังคมที่เร่งรีบตลอดเวลา ดูเหมือนว่าแบรนด์กาแฟใหญ่ ๆ ทุกแบรนด์ได้ทุ่มเทส่วนหนึ่งของธุรกิจให้กับกาแฟกระป๋องหรือขวด กาแฟเหล่านี้ไม่เพียงแต่สะดวก แต่ยังไม่ต้องยืนรอคิวในร้านกาแฟนานหรือใช้อุปกรณ์ราคาแพงที่บ้านอีกด้วย ด้วยคุณภาพของกาแฟบรรจุขวดที่พัฒนาอย่างมาก นี่จึงเป็นเทรนด์ที่มีแนวโน้มจะอยู่ต่อไปอีกนาน
9. เบลนด์คุณภาพกาแฟ (Quality blend Coffee)
ในความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟมาอย่างยาวนาน กาแฟที่ดีที่สุดและมีคุณภาพสูงสุดมาจากเมล็ดกาแฟแบบแหล่งเดียว ซึ่งเป็นที่นิยมในร้านกาแฟพิเศษและคาเฟ่ชั้นนำมาหลายปี อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ เมล็ดกาแฟที่เบลนด์จากแหล่งต่าง ๆ ได้เริ่มเข้ามาครอบครองตลาด การผสมเมล็ดกาแฟประเภทต่าง ๆ เคยเป็นวิธีปรับปรุงรสชาติและลดต้นทุน แต่ในปัจจุบัน บาริสต้าชั้นนำของโลกบางคนได้ใช้เบลนด์ในวิธีที่มีประสิทธิภาพจนได้รับการยอมรับและชื่นชมมากขึ้น
เนื่องจากอนาคตของการผลิตกาแฟยังไม่แน่นอน “เบลนด์ ” ดูเหมือนจะเป็นเทรนด์ที่มีแนวโน้มจะคงอยู่ต่อไป อย่างที่เห็นกันว่าโลกของกาแฟกำลังเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ การตามเทรนด์จะช่วยให้เราได้สนุกไปกับเพื่อน ๆ อย่าลืมมองหาร้านกาแฟที่ตามทันสภาพอุตสาหกรรมกาแฟในปัจจุบัน เพื่อให้เราได้เพลิดเพลินกับเครื่องดื่มที่ดีขึ้นและมีทางเลือกเพื่อสุขภาพ ใครจะรู้ เราอาจช่วยร้านกาแฟโปรดของเราคิดค้นเครื่องดื่มยอดฮิตถัดไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ของเราก็ได้
10. ลูกค้ากาแฟรุ่นใหม่ (New generation of coffee customers)
ถ้าเรารู้จักอะไรเกี่ยวกับคนรุ่นเจนเนอเรชั่น Z นายจะเข้าใจถึงความรักของพวกเขาที่มีต่อเครื่องดื่มที่มาจากกาแฟ แม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่ชื่นชอบกาแฟแบบดั้งเดิม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ไปที่ร้านกาแฟเพื่อสั่งเครื่องดื่มพิเศษแทบทุกวัน เพื่อให้ทันกับเทรนด์เหล่านี้ ร้านกาแฟใช้ครีมเทียม กาแฟเย็น และทุกสิ่งที่คิดว่าจะดึงดูดกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่นี้ ด้วยความหวังว่าจะทำให้พวกเขายังคงดื่มกาแฟต่อไป
หลายเทรนด์ในอุตสาหกรรมกาแฟมาจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและความสะดวกสบาย บางเทรนด์อาจเป็นผลโดยตรงจากการระบาดใหญ่ที่ผ่านไป แต่บางเทรนด์ก็ใหม่ต่ออุตสาหกรรมโดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนามันให้ดีขึ้น คงต้องรอดูกันว่าเทรนด์ไหนจะอยู่ยืนยาว แต่น่าจะพูดได้อย่างปลอดภัยว่าความนิยมในกฎหมายแรงงานที่เป็นธรรม ร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และกาแฟคุณภาพ เป็นเทรนด์ที่เราจะเห็นกันไปอีกหลายปี ในระหว่างนี้ หวังว่าคุณจะสนุกกับรายการเทรนด์ยอดนิยมของเราสำหรับปีนี้
เกร็ดความรู้ : วิธีการชงกาแฟ
- การชงด้วยเครื่องเอสเปรสโซ เครื่องเอสเปรสโซใช้แรงดันสูงในการชง ทำให้กาแฟมีรสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์
- การชงแบบเฟรนช์เพรส เป็นการชงที่ใช้เวลานานและให้รสชาติกาแฟที่เข้มข้น ใช้กาน้ำและการกดเพื่อแยกน้ำกาแฟจากกากกาแฟ
- การชงแบบดริป น้ำร้อนจะไหลผ่านเมล็ดกาแฟที่บดละเอียดและตกลงมาในหม้อกาแฟ ทำให้ได้กาแฟที่รสชาติอ่อนนุ่มและกลิ่นหอม
- การชงแบบแอโรเพรส การใช้แรงดันอากาศในการชง ทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติใกล้เคียงกับเอสเปรสโซ
- การชงแบบสกัดเย็น การแช่เมล็ดกาแฟในน้ำเย็นเป็นเวลานาน ทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาตินุ่มนวลและคาเฟอีนน้อยกว่า
ส่วนใครที่อยากเริ่มต้นทำแบรนด์กาแฟ อยากเปิดแฟรนไชส์ และกำลังมองหาร้านจำหน่ายวัตถุดิบผงชาเมล็ดกาแฟคุณภาพดี ต้นทุนไม่สูง ต้องการร้านค้าที่มีสต็อกเยอะ ไม่ต้องกังวลในเรื่องการขาดแคลนวัตถุดิบ สามารถสอบถามและสั่งซื้อสินค้าของเราได้เลย เรามีเรทราคาส่งเริ่มต้นที่ 6 กิโลกรัมเท่านั้น แถมยังมีสินค้าผงชากาแฟให้เลือกมากกว่า 50 รายการ ช่วยให้คุณรังสรรค์ได้หลายร้อยเมนู
สำหรับใครที่ต้องการผงชาจำนวนมาก อยากได้เรทราคาโรงงาน โรงงานของเราก็มีบริการรับผลิตชา OEM รับพัฒนาสูตรชา เริ่มต้นที่ 51 กิโลกรัมขึ้นไป เราพร้อมจัดหาวัตถุดิบ ผลิตและบรรจุ ออกแบบโลโก้ให้ฟรี ทั้งยังหาบริษัทขนส่งที่เหมาะสม พร้อมรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ มากมาย
บทความที่เกี่ยวข้อง