แต่งร้านชาไข่มุกยังไง ให้ดูดีและสวยงาม ?
แต่งร้านชาไข่มุกยังไง ให้ดูดีและสวยงาม ?
การแต่งร้านชาไข่มุก ของตัวเองให้สวย หรือให้ถูกใจลูกค้า เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ร้านมีการตกแต่งสวยงาม สะอาด และ สบายตา แต่ การตกแต่งที่มากจนเกินไปก็อาจจะทำให้ เกะกะร้าน หรือ รกร้านจนเกินไป การตกแต่งเกินงบก็อาจจะเกินไปซักหน่อย ดังนั้นการตกแต่งร้าน ควรตกแต่งให้พอดีและไม่เกินงบของตัวเองจนเกินไป การตกแต่งร้านที่ได้ก็จะแลกกับจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการอย่างมาก และ ยิ่งมีขอองตกแต่งตามกระแส เช่น ต้นกระบองเพรช โมเดลการ์ตูน หรือตุ๊กตา ก็จะใช้ดึงดูดลูกค้ามากขึ้น ดั้งนั้น บทความ แต่งร้านชาไข่มุกยังไง ให้ดูดี และ สวยงาม ? จะช่วยแนะนำการแต่งร้านชาไข่มุกให้คุณเอง
1. การตกแต่งด้วยต้นไม้
การตกแต่งด้วยต้นไม้นั้นจะทำให้ร้านดูร่มรื่น และสบายตัว เพราะมีสีเขียวมีส่วนช่วยในการพักสายตาได้ดี
การตกแต่งต้นไม้สามารถใช้เป็น ” กระถางเล็ก ๆ “ นำไปวางที่บนโต๊ะแต่งละโต๊ะได้ หรือ จะนำไปแขวนติดผนังในร้านก็ได้ แต่อย่าใช้กระถางที่มีความหนักจนเกินไป อาจจะทำให้ที่แขวนรับน้ำหนักไม่ไหวและเวลารดน้ำมากเกินไปอาจจะทำให้ผนังมีคาบน้ำจากกระถางได้
ถ้าจะใช้ ” กระถางใหญ่ ” ควรนำไปวางตรงมุมของร้านที่ว่าง ๆ ได้ หรือหน้าร้าน เพื่อให้ร้านร่มรื่น ให้อารมณ์ความรู้สึกถึงการพักผ่อน
” แต่ “ การใช้ตกแต่งมากเกินไปอาจจะส่งผลเสียถึงการเกิดเชื้อราในดิน หรือ จากต้นไม้ที่ตาย และ การรดน้ำต้นไม้อาจจะมีน้ำรั่ว จากกระถางได้ และใบไม้ที่ร่วงตามพื้น เศษดินที่ตกเกลื่อนกลาด
2. การจัดวางโต๊ะ
การเลือกโต๊ะก็มีผลต่อร้าน ซึ่งถ้าร้านที่มีพื้นที่น้อย แต่ใช้ โต๊ะใหญ่หรือโต๊ะยาว 2 โต๊ะ และร้านที่มีพื้นที่มาก ใช้แต่โต๊ะที่มีขนาดเล็ก ทั้งหมด มันอาจจะไม่เหมาะ ดั้งนั้น การเลือกขนาดโต๊ะก็มีผลต่อร้านเช่นกัน
” ร้านที่มีพื้นที่น้อย “ ฉันแนะนำให้ใช้โต๊ะ ยาว ติดผนังเผื่อลูกค้าที่มี 1 – 2 คน และ มีโต๊ะ กลมซัก 2 – 3 โต๊ะ เผื่อลูกค้ามากันหลายคน
” ร้านที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ “ ฉันแนะนำให้มีโต๊ะ ใหญ่ ซัก 1 – 2 โต๊ะ เผื่อลูกค้าที่มาด้วยกันหลายคัน และ มีโต๊ะ เดี่ยวไว้เผื่อลูกค้าที่คนเดียว และ โต๊ะทั่วไป ที่นั่งได้ 4 คนไว้
แต่ร้านที่ไม่มีพื้นที่ในร้าน หรือ ร้านที่ทีแต่หน้าร้าน ควรมีเก้าอี้ ไว้สำหรับให้ลูกค้านั่งรอ ดีกว่าให้ลูกค้า ยื่นรอนาน ๆ
3. หลอดไฟ โคมไฟ
การใช้ ” หลอดไฟ “ ส่วนมากคนออกแบบจะไม่ค่อยสนใจในเรื่องนี้เพราะว่าร้านชาไข่มุก ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเปิดจนดึก แต่ก็ต้องคิดเผื่อไว้ เพราะว่าอาจจะมืดเพราะมีฝนตก หรือ ลูกค้าอาจะเข้าตอนช่วงเย็น มาก
” โคมไฟ “ ส่วนมากที่ใช้กันจะเป็นโคมไฟแบบห้อย สีของหลอดไฟจะเป็นส้ม หรือ สีขาว หรือ เป็นหลอดไฟแบบดาวไลท์ เพราะว่า หลอดไฟแบบห้อยนั้นจะสว่างมากเมื่ออยู่ใกล้ ๆ และ จะเริ่มมืดลงเมื่ออยู่ไกล ซึ่งจะติดทุกมุมของร้านก็จะสว่างเกินไป ใช้เป็นหลอดไฟดาวไลท์น่าจะเหมาะที่สุด แต่ถ้างบไม่พอจริง ๆ ใช้ เป็นหลอดไฟธรรมดาติดไว้กลางร้านก็ได้
4. หมอน หรือ ตุ๊กตา
เริ่มด้วยเรื่องของ ” หมอน “ ก่อนเลย เพราะว่า หมอนที่นิยมใช้ในร้านชาไข่มุก ส่วนมากจะเป็นหมอนรองนั่ง เพราะหากเป็นพื้นเดิมของเก้าอี้ อาจแข็งกระด้างเกินไป ถัดมาเป็นหมอน ที่เอาไว้ รองแขน กอด และ นอน เพราะลูกค้าบางคนต้องการพักผ่อนภายในร้าน ในระหว่างพักเที่ยง เวลาว่าง หรือรอเพื่อน
” ตุ๊กตา ” สามารถเอาไว้ตกแต่ง หรือ เอาไว้ใช้แทนหมอนได้ ซึ่งผู้หญิงและเด็กจะชอบมาก ยิ่งหมอนที่นุ่ม ด้วยแล้วยิ่งชอบใหญ่
แต่ข้อเสียก็มีอยู่เยอะ เพราะว่าเราไม่รู้ว่าลูกค้าจะเอาหมอนหรือตุ๊กตาเอาไปทำอะไรบ้าง หรือ ใช้ยังไงบ้าง อาจจะมีคราบน้ำ หรือ ฝุ่น ดังนั้นอาจจะต้องหมั่นซักหมอนกับตุ๊กตาภายในร้าน ให้สะอาดอยู่เสมอ
5. เคาเตอร์หรือเคาเตอร์บาร์
การตกแต่ง ” เคาเตอร์ทั่วไป ” นั้น ควรตกแต่งด้วยวัตถุดิบ หรือ ของใช้ต่าง ๆ เกี่ยวกับชาไข่มุก หรือ เมนูชาต่าง ๆ
” เคาเตอร์บาร์ ” ส่วนมากจะไม่ตกแต่งอะไรเลย แต่ถ้าหากโล่งจนเกินไป สามารถใช้ กระถางต้นไม้ขนาดเล็ก แทนได้ เพราะว่าเคาเตอร์บาร์นั้นเป็นเคาเตอร์ที่ลูกค้าสามารถนำเครื่อง มาดื่มตรงเคาเตอร์บาร์ได้ ดั้งนั้นควรปล่อยลูกค้าใช้เหมือนโต๊ะนั่งดื่มทั่วไป และเคาเตอร์บาร์นั้นต้องทำความสะอาด ให้สะอาดอยู่เสมอเพราะว่าลูกค้าเมื่อเวลาจะมาสั่งเครื่องดื่มต้องมาสั่งตรงเคาเตอร์บาร์
สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงนั่นก็คือ เคาเตอร์หรือ เคาเตอร์บาร์ เปรียบเสมือนหน้าตาของร้านเลยก็ว่าได้ ดั้งนั้นต้อง รักษาความสะอาด อยู่ตลอด แต่การที่ปล่อยให้โล่งเกินไป ก็จะดูโล่ง หรือ ขึ้นอยู่กับการจัดร้านอีกที ว่าจะตกแต่งแบบไหน