เมล็ดกาแฟ จัดเป็นพืชตระกูลถั่ว จริงหรือ ? ไขข้อข้องใจเรื่องกาแฟ ?
เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมหลายคนถึงเข้าใจผิด คิดว่า “กาแฟจัดเป็นพืชตระกูลถั่ว”? ทั้งที่จริง ๆ แล้ว กาแฟไม่ได้เป็นญาติกับถั่วลิสง ถั่วเขียว หรือถั่วเหลืองเลยสักนิด!เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดนี้ น่าจะมาจากลักษณะภายนอกของ “เมล็ดกาแฟ” ที่ดูคล้ายเมล็ดถั่ว ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง ขนาด หรือสีผิว ประกอบกับการที่ภาษาอังกฤษเรียกเมล็ดกาแฟว่า “coffee bean” ยิ่งทำให้หลายคนเชื่อไปกันใหญ่ว่ากาแฟต้องเป็นพืชตระกูลถั่วแน่ ๆ นอกจากนี้รสชาติของกาแฟบางชนิด ยังมีกลิ่นหอมและรสชาติคล้ายถั่ว เช่น กลิ่น “nutty” ในกาแฟคั่วเข้ม ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คนเชื่อมโยงกาแฟเข้ากับถั่ว แต่ความจริงแล้วกาแฟไม่ได้เป็นพืชตระกูลถั่วเลยนะ! แล้วกาแฟเป็นพืชชนิดไหนกันแน่ ? ติดตามคำตอบได้ในหัวข้อถัดไป !
กาแฟ จัดเป็นพืชตระกูลถั่ว จริงหรือ ?
เฉลยแล้ว ! ถึงแม้เมล็ดกาแฟจะดูเหมือนถั่ว แต่จริง ๆ แล้ว กาแฟไม่ได้เป็นพืชตระกูลถั่ว แต่เป็นพืชดอกที่อยู่ในวงศ์ Rubiaceae สกุล Coffea มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Coffea arabica (กาแฟอาราบิก้า) และ Coffea canephora (กาแฟโรบัสต้า) ซึ่งเป็นสองสายพันธุ์หลักที่นิยมปลูกกันทั่วโลก
ต้นกาแฟเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 3-5 เมตร มีใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอกมีสีขาว ส่งกลิ่นหอมละมุนคล้ายดอกมะลิ ส่วนผลกาแฟ หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ “เชอร์รี” จะมีลักษณะกลมรี เมื่อสุกจะมีสีแดงสด ภายในผลจะมีเมล็ดกาแฟอยู่ 2 เมล็ด กาแฟมีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา โดยเฉพาะประเทศเอธิโอเปีย ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟอาราบิก้าที่มีชื่อเสียง ปัจจุบันมีการปลูกกาแฟกันอย่างแพร่หลายในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยกาแฟอาราบิก้าจะปลูกมากในภาคเหนือ ส่วนกาแฟโรบัสต้าจะปลูกมากในภาคใต้
เจาะลึก “เมล็ดกาแฟ”
มาดูกันใกล้ ๆ ว่า “เมล็ดกาแฟ” ที่เราคุ้นเคยกันดี มีอะไรซ่อนอยู่ข้างในบ้าง ? จริง ๆ แล้ว สิ่งที่เราเรียกว่า “เมล็ดกาแฟ” นั้น ประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญ 2 ส่วน คือ
- เปลือกหุ้มเมล็ด : เป็นชั้นบาง ๆ ที่หุ้มเมล็ดกาแฟเอาไว้ มีหน้าที่ปกป้องเนื้อเมล็ดจากความเสียหาย
- เนื้อเมล็ด : คือส่วนที่อยู่ภายในเปลือกหุ้มเมล็ด มีสาระสำคัญที่ทำให้เกิดรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟ เช่น คาเฟอีน น้ำตาล ไขมัน และกรดอะมิโน
เมล็ดกาแฟที่เราเห็นกันทั่วไป ผ่านกระบวนการแปรรูปมาหลายขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การเก็บเกี่ยวผลกาแฟสุก (หรือที่เรียกว่า “เชอร์รี”) นำมาแยกเนื้อและเปลือกออก ล้างทำความสะอาด ตากแห้ง คัดแยกขนาด และคั่ว กว่าจะมาเป็นเมล็ดกาแฟพร้อมชง ต้องใช้ความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้กาแฟที่มีคุณภาพดี รสชาติเยี่ยม รู้แบบนี้แล้ว เวลาจิบกาแฟแก้วโปรด ลองสังเกตเมล็ดกาแฟกันดูว่ามีลักษณะ สี และกลิ่น อย่างไร รับรองว่าจะยิ่งเพิ่มอรรถรสในการดื่มกาแฟมากขึ้นแน่นอน
กาแฟกับพืชตระกูลถั่ว ต่างกันอย่างไร ?
ถึงแม้หน้าตาจะคล้ายกัน แต่กาแฟกับพืชตระกูลถั่ว มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยล่ะครับ! ลองมาดูกันชัด ๆ ว่าต่างกันยังไงบ้าง ?
- ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : อย่างที่บอกไปแล้วว่ากาแฟเป็นพืชดอกในวงศ์ Rubiaceae ส่วนพืชตระกูลถั่วอยู่ในวงศ์ Fabaceae ซึ่งมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์แตกต่างกัน เช่น ลักษณะของดอก ผล และเมล็ด
- คุณค่าทางโภชนาการ : เมล็ดกาแฟมีสาระสำคัญอย่างคาเฟอีน สารต้านอนุมูลอิสระ และไขมัน ในขณะที่พืชตระกูลถั่วอุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และใยอาหาร
- กระบวนการปลูกและเก็บเกี่ยว : กาแฟปลูกในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน ใช้เวลาหลายปีกว่าจะให้ผลผลิต ส่วนพืชตระกูลถั่วปลูกได้หลากหลายพื้นที่ และมีระยะเวลาเก็บเกี่ยวที่สั้นกว่า
ประโยชน์ของ “เมล็ดกาแฟ”
นอกจากรสชาติเข้มข้น หอมกรุ่น ชวนให้รู้สึกสดชื่นแล้ว “กาแฟ” ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจของเราอีกมากมายเลย ในเมล็ดกาแฟอุดมไปด้วยสาระสำคัญ เช่น คาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นระบบประสาท เพิ่มความตื่นตัว และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอวัย ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ มะเร็ง และโรค Alzheimer มีงานวิจัยมากมายที่ยืนยันว่า การดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม (ประมาณ 1-2 แก้วต่อวัน) มีส่วนช่วยในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง : ช่วยให้มีสมาธิ จดจำได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงของโรค Parkinson
- ช่วยเผาผลาญพลังงาน : กระตุ้นระบบเผาผลาญ ช่วยในการลดน้ำหนัก
- ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน : ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- บำรุงตับ : ลดความเสี่ยงของโรคตับแข็ง และมะเร็งตับ
- ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย : ลดความเครียด และช่วยให้อารมณ์ดี
อย่างไรก็ตาม การดื่มกาแฟมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เช่น ใจสั่น นอนไม่หลับ วิตกกังวล ดังนั้น ควรดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ และเลือกกาแฟคุณภาพดี เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด
บทความที่น่าสนใจ”เมล็ดกาแฟ”
- ชามีกี่ชนิด ? ไขข้อสงสัย ชาที่คุณดื่มคือชาอะไร ?
- ชาเขียวมัทฉะ คืออะไร ? ทำไมถึงเป็นชาเขียวที่คุ้มค่ายอมจ่ายราคาแพง
- เจาะตลาดแฟรนไชส์ เครื่องดื่ม และแฟรนไชส์ที่เป็นที่นิยมในไทย
จบไปแล้วสำหรับการไขข้อข้องใจเรื่องกาแฟ หวังว่าทุกคนคงจะหายสงสัยกันแล้วว่า “กาแฟไม่ใช่พืชตระกูลถั่ว” ถึงแม้เมล็ดกาแฟจะดูคล้ายเมล็ดถั่ว แต่จริง ๆ แล้วกาแฟเป็นพืชดอกในวงศ์ Rubiaceae สกุล Coffea มีลักษณะ คุณค่าทางโภชนาการ และกระบวนการปลูก ต่างจากพืชตระกูลถั่วโดยสิ้นเชิง กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แถมยังผูกพันกับวัฒนธรรมของผู้คนในแต่ละพื้นที่อย่างน่าสนใจ
สุดท้ายนี้อยากฝากให้ทุกคนสนุกกับการดื่มกาแฟ ลองดื่มกาแฟหลากหลายสายพันธุ์ หลากหลายวิธีการชง เพื่อสัมผัสกับรสชาติ กลิ่น และประสบการณ์ใหม่ ๆ รับรองว่าคุณจะหลงรักกาแฟมากยิ่งขึ้น! เคยสงสัยกันไหมว่า กว่าจะมาเป็นกาแฟหอมกรุ่นในแก้วที่เราจิบกันทุกเช้า ต้องผ่านกระบวนการอะไรมาบ้าง ? วันนี้เราจะพาไปเปิดประตูโรงงานผลิตกาแฟ ไปดูเบื้องหลังการผลิตกันแบบใกล้ชิดเลย !
โรงงานผลิตเมล็ดกาแฟ Bluemocha เชียงใหม่
สนใจชาราคาส่ง เริ่มต้น 6 กิโลกรัมขึ้นไป แอดไลน์ @bluemochacoffee
การเดินทางของเมล็ดกาแฟ เริ่มต้นจากไร่กาแฟ ที่เกษตรกรปลูกดูแลต้นกาแฟอย่างพิถีพิถัน รอคอยจนผลกาแฟสุกแดง จึงเริ่มเก็บเกี่ยว นำผลกาแฟมาคัดแยก เลือกเฉพาะผลสุก ที่ได้คุณภาพดี ส่งตรงมายังโรงงาน เมื่อมาถึงโรงงาน เมล็ดกาแฟจะถูกนำไปผ่านกระบวนการแปรรูป ซึ่งมีหลากหลายวิธี เช่น การแปรรูปแบบเปียก แบบแห้ง หรือแบบกึ่งเปียก เพื่อแยกเนื้อและเปลือกออกจากเมล็ด จากนั้นจึงนำไปตากแห้ง คัดแยกขนาด และบรรจุใส่กระสอบ รอส่งต่อไปยังโรงคั่วกาแฟ
ที่โรงคั่ว เมล็ดกาแฟจะถูกคั่วด้วยความร้อน เพื่อดึงรสชาติและกลิ่นหอม ออกมาอย่างเต็มที่ ระดับการคั่ว มีผลต่อรสชาติกาแฟ เช่น คั่วอ่อน จะได้รสชาติเปรี้ยว สดชื่น คั่วเข้ม จะได้รสชาติเข้มข้น ขมเล็กน้อย หลังจากคั่วเสร็จแล้ว เมล็ดกาแฟจะถูกบรรจุใส่ถุง พร้อมจำหน่าย และนี่ก็คือ เบื้องหลังการผลิตกาแฟ จากไร่สู่แก้ว ที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ ในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้กาแฟ ที่มีคุณภาพ รสชาติ และกลิ่นหอม ถูกใจคอกาแฟทุกคน โรงงานผลิตกาแฟ Bluemocha มุ่งมั่นผลิตกาแฟคุณภาพ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ควบคุมทุกขั้นตอนการผลิตอย่างพิถีพิถัน เพื่อส่งมอบกาแฟ รสชาติเยี่ยม ให้กับผู้บริโภค
เรามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมีให้เลือกมากกว่า 40 ชนิด และสูตรใบชาอีกมากกว่า 120 สูตร ซึ่งแต่ละชนิดแตกต่างกันออกไปทั้งในเรื่องของรสชาติ และกลิ่น มีทั้งชนิดใบชาอบแห้ง ใบชาบดหยาบ และผงอื่น ๆ ที่เหมาะสำหรับนำไปทำเมนูได้หลากหลาย ใบชาของเรามีคุณภาพเกรดเดียวกับแบรนด์ชาดัง มีรสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ โรงงานผลิตชา Bluemocha มีบริการผลิต OEM&ODM ที่มีมาตรฐานรับรอง มีทีมงานดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นให้คำปรึกษา จัดหาวัตถุดิบ ดูแลในส่วนของกระบวนการผลิต การบรรจุ ตลอดจนไปถึงการหาบริการขนส่งที่เหมาะสม เพื่อให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย และมีคุณภาพที่ดี สามารถผลิตชาได้หลากหลายชนิด ทั้งยังมีบริการรับพัฒนาสูตรชา และแกะสูตรชาได้ตามความต้องการของลูกค้า
หากสนใจทำแบรนด์กับ Bluemocha เรา เริ่มต้นทำแบรนด์ได้เลยเมื่อสั่งผลิต 51 กิโลกรัมขึ้นไป Bluemocha เรามีบริการ ออกแบบโลโก้ฟรี จดอย.ให้ฟรี เมื่อสั่งผลิต100 กิโลกรัมขึ้นไป ยื่นขอรับรองฮาลาล (HALAL) เมื่อสั่งผลิต 500 กิโลกรัมขึ้นไป, ปรับสูตรชาได้ตามความต้องการของลูกค้า, มีตัวอย่างให้ทดลองฟรี และยื่นขอใบสำหรับลูกค้าที่ต้องการส่งออกไปต่างประเทศ Bluemocha พร้อมให้บริการลูกค้าทุกท่าน
“Bluemocha เราคือ เพื่อนคู่คิด ผลิตใบชา ให้คำปรึกษาครบวงจร”
คำถามที่พบบ่อย “เมล็ดกาแฟ”
1. กาแฟสดกับกาแฟสำเร็จรูปต่างกันอย่างไร ?
ตอบ : กาแฟสด คือ กาแฟที่ชงจากเมล็ดกาแฟคั่ว ซึ่งยังคงความสดใหม่ของรสชาติและกลิ่นหอมเอาไว้ ส่วนกาแฟสำเร็จรูป คือกาแฟที่ผ่านกระบวนการสกัด ทำให้แห้ง และบรรจุภัณฑ์ เพื่อความสะดวกในการชงดื่ม แต่รสชาติและกลิ่นหอมอาจด้อยกว่ากาแฟสด
2. ดื่มกาแฟมากเกินไปมีผลเสียอย่างไร ?
ตอบ : การดื่มกาแฟมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการใจสั่น นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ วิตกกังวล และส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหารได้ ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ ประมาณ 3-4 แก้วต่อวัน
3. กาแฟมีประโยชน์อย่างไร ?
ตอบ : กาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ, มะเร็ง และโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความตื่นตัว กระตุ้นการเผาผลาญและบำรุงตับ
4. กาแฟชนิดใดมีคาเฟอีนมากที่สุด ?
ตอบ : โดยทั่วไป กาแฟโรบัสต้ามีปริมาณคาเฟอีนมากกว่ากาแฟอาราบิก้า แต่ปริมาณคาเฟอีนยังขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ การคั่ว และวิธีการชงด้วย
5. ควรเก็บกาแฟอย่างไรให้คงความสดใหม่ ?
ตอบ : ควรเก็บกาแฟในภาชนะที่ปิดสนิทในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดด ความร้อน และความชื้น ไม่ควรเก็บกาแฟไว้ในตู้เย็น เพราะอาจทำให้เกิดความชื้นและกลิ่น
6. เลือกซื้อกาแฟอย่างไร ?
ตอบ : ควรเลือกซื้อกาแฟจากแหล่งที่เชื่อถือได้สังเกตวันคั่ว, เลือกชนิดของกาแฟ, ระดับการคั่ว, รูปแบบการบดให้เหมาะกับความชอบ และวิธีการชง
7. ทำไมกาแฟถึงมีรสชาติแตกต่างกัน ?
ตอบ : รสชาติของกาแฟขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สายพันธุ์ม แหล่งปลูก, สภาพอากาศ, การแปรรูป, การคั่ว, การบด และวิธีการชง
8. กาแฟ decaf คืออะไร ?
ตอบ : กาแฟ decaf คือกาแฟที่สกัดคาเฟอีนออก เหลือปริมาณคาเฟอีนน้อยมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลด หรือหลีกเลี่ยงการบริโภคคาเฟอีน
9. กาแฟออร์แกนิกคืออะไร ?
ตอบ : กาแฟออร์แกนิก คือกาแฟที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี เช่น ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและดีต่อสุขภาพ
10. เริ่มต้นดื่มกาแฟอย่างไรดี?
ตอบ : สำหรับผู้เริ่มต้นแนะนำให้ลองดื่มกาแฟอาราบิก้าคั่วกลาง ซึ่งมีรสชาติกลมกล่อม ไม่เข้มจนเกินไป และสามารถผสมนมหรือน้ำตาล เพื่อเพิ่มรสชาติตามชอบ