ไขข้อสงสัย ! ชาไทยถูกแบนจริงหรือ ? เปิดทางเลือกใหม่ “ชาไทยไม่ใส่สี”

ชาไทยถูกแบนจริงหรือ? เปิดตัว "ชาไทยไม่ใส่สี" ทางเลือกใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมบทความนี้ไปไขข้อสงสัยทุกประเด็นเกี่ยวกับเครื่องดื่มนี้!

คุณเคยได้ยินข่าวลือที่ว่า “ชาไทยถูกแบน” บ้างไหม ? หรือสังเกตหรือไม่ว่าพักหลังมานี้ เริ่มมีกระแสของ “ชาไทยไม่ใส่สี” ปรากฏให้เห็นมากขึ้นในท้องตลาด ? ชาไทยถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมของประเทศไทย ที่ไม่เพียงแต่ครองใจคนไทยเท่านั้น แต่ยังโด่งดังไปไกลถึงระดับนานาชาติ ด้วยรสชาติหวานมันเป็นเอกลักษณ์และสีส้มสดใสที่ชวนลิ้มลอง ทำให้ชาไทยกลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมอาหารของไทยอย่างหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา ประเด็นเรื่องการใช้สีผสมอาหารในชาไทยได้กลายเป็นที่ถกเถียงและสร้างความกังวลให้กับผู้บริโภค จนนำไปสู่ข่าวลือเกี่ยวกับการแบนชาไทย และเป็นแรงผลักดันให้เกิดทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ นั่นก็คือ ชาไทยไม่ใส่สีที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อสงสัยเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องชาไทยถูกแบน เจาะลึกถึงสาเหตุของความกังวลเกี่ยวกับสีผสมอาหาร และทำความรู้จักกับชาไทยไม่ใส่สี ทางเลือกใหม่ที่กำลังมาแรง พร้อมทั้งวิเคราะห์ถึงกระแสและความเป็นไปได้ในอนาคตของเครื่องดื่มชนิดนี้

ท่ามกลางกระแสข่าวลือและข้อมูลที่ถูกส่งต่อกันในโลกออนไลน์ หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่า แท้จริงแล้ว “ชาไทย” เครื่องดื่มสีส้มสดใสที่คุ้นเคยกันดีนั้น “ถูกแบน” จริงหรือไม่ ? เพื่อไขข้อข้องใจนี้ เราต้องทำความเข้าใจในสถานการณ์ที่แท้จริงเสียก่อน โดยทั่วไปแล้ว ในภาพรวมไม่ได้ถูกประกาศแบนอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานใด ๆ ทั้งในประเทศไทยและระดับสากล

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ทำให้เกิดความกังวลและนำไปสู่ข่าวลือต่าง ๆ นั้น มุ่งเน้นไปที่การใช้ “สีผสมอาหาร” บางชนิดในชาไทยมากกว่า การที่ผู้บริโภคเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยของ “สีผสมอาหาร” โดยเฉพาะ “สีสังเคราะห์” ที่อาจถูกมองว่าเป็นอันตรายสีผสมอาหารต่อสุขภาพ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความตื่นตัวในเรื่องนี้

นอกจากนี้ “ข่าวลือ” หรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้องที่ถูกเผยแพร่และส่งต่อกันอย่างรวดเร็วในสื่อสังคมออนไลน์ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า “ชาไทยถูกแบน” ไปแล้วทั้งหมด การตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพและการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เน้นความเป็น “ธรรมชาติ” มากขึ้น ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนเริ่มมองหาทางเลือกอื่นที่ไม่พึ่งพาสีสังเคราะห์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง “ความเชื่อสีผสมอาหาร” ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค

ดังนั้น ข้อเท็จจริงที่ควรทราบคือ ไม่ใช่ว่าชาไทยถูกแบนทั้งหมด แต่เป็นเรื่องของการควบคุมหรือการหลีกเลี่ยงการใช้ “สีผสมอาหาร” บางชนิดเท่านั้น ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายหลายรายจึงเริ่มปรับตัวและนำเสนอ “ชาไทยไม่ใส่สี” เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจในเรื่องนี้

ความกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับสีผสมอาหารในชาไทย นั้นมีรากฐานมาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับอันตรายสีผสมอาหาร ที่ถูกส่งต่อและพูดถึงอย่างกว้างขวางในสังคม ตัวอย่างเช่น หลายคนอาจเชื่อว่าสีผสมอาหารเป็นสารเคมีสังเคราะห์ที่ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคภูมิแพ้ หรือภาวะสมาธิสั้นในเด็ก ซึ่งความเชื่อสีผสมอาหารเหล่านี้ แม้ว่าบางครั้งอาจมีข้อมูลบางส่วนที่ถูกบิดเบือนหรือขยายความเกินจริง แต่ก็ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและความมั่นใจของผู้บริโภคได้

ในทางกลับกัน ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสีผสมอาหารที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในอาหารและเครื่องดื่มนั้น มีการควบคุมและตรวจสอบอย่างเข้มงวดโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย. ) ในประเทศไทย สีผสมอาหารที่ผ่านการอนุมัติ จะต้องผ่านการประเมินความปลอดภัยอย่างละเอียด และมีการกำหนดปริมาณที่สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัยในแต่ละวัน (Acceptable Daily Intake หรือ ADI) เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับในปริมาณที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ชาไทยถูกแบนจริงหรือ ชาไทยไม่ใส่สี ทางเลือกใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมบทความนี้ไปไขข้อสงสัยทุกประเด็นเกี่ยวกับเครื่องดื่มนี้

อย่างไรก็ตาม ในอดีตก็เคยมีกรณีศึกษา เกี่ยวกับสีผสมอาหารบางชนิดที่ถูกตั้งข้อสงสัยหรือพบว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลต้องออกมาตรการควบคุมหรือห้ามใช้สีเหล่านั้น ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ยิ่งตอกย้ำความกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับความปลอดภัยของสารปรุงแต่งต่างๆ รวมถึงสีผสมอาหารในชาไทยด้วย

ด้วยเหตุนี้ ความสำคัญของการเลือกใช้สีที่ปลอดภัย จึงเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตชาไทย และเครื่องดื่มอื่นๆ ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การเลือกใช้สีผสมอาหารที่ได้รับการรับรองจากอย. และใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสุขภาพ ของผู้บริโภคอีกด้วย การสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับสีผสมอาหารที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อลดความเข้าใจผิดและสร้างความโปร่งใสให้กับผู้บริโภคเกี่ยวกับสีผสมอาหารในชาไทย

เมื่อความกังวลเกี่ยวกับสีผสมอาหารในชาไทยเริ่มมีมากขึ้น ทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจและกำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว “ชาไทยไม่ใส่สี” คืออะไรกันแน่ ? โดยพื้นฐานแล้ว มันคือชาไทย ที่ยังคงรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ไว้ แต่ไม่มีการเติมสีสังเคราะห์ ใด ๆ เพื่อให้ได้สีส้มสดใสแบบดั้งเดิม ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดระหว่างชาไทยไม่ใส่สี กับชาไทยแบบดั้งเดิมก็คือ “สีสัน” โดยสีสันที่ได้จากชาไทยไม่ใส่สี มักจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน ๆ คล้ายกับสีของชานมทั่วไป ซึ่งเป็นสีที่มาจากธรรมชาติ ของส่วนผสม หลักอย่างใบชาและนม อาจมีความเข้มอ่อนแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของชาและปริมาณนมที่ใช้

ส่วนผสมหลักที่ใช้ในการทำชาไทยไม่ใส่สี ยังคงเป็นวัตถุดิบเดิมที่คุ้นเคย ผู้ผลิตจะเน้นย้ำว่าไม่มีการเติมสีสังเคราะห์ใด ๆ ลงในผลิตภัณฑ์ ทำให้ผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ และต้องการหลีกเลี่ยงสารเคมีสังเคราะห์รู้สึกสบายใจและมั่นใจในการเลือกดื่มมากขึ้น จุดเด่นที่สำคัญของชาไทยไม่ใส่สี คือความเป็นธรรมชาติ และความรู้สึกปลอดภัยต่อสุขภาพที่ผู้บริโภคได้รับ การที่ไม่มีสีสังเคราะห์ทำให้หลายคนมองว่าเป็นทางเลือกใหม่ ที่ “สะอาด” และดีต่อสุขภาพมากกว่า นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้สัมผัสรสชาติและกลิ่นหอมที่แท้จริงของชาและส่วนผสมอื่น ๆ โดยไม่มีสีสังเคราะห์มาบดบังหรือแต่งเติม

การเกิดขึ้นของชาไทยไม่ใส่สี ในฐานะทางเลือกใหม่ ย่อมมาพร้อมกับทั้งข้อดีและข้อเสียที่ผู้บริโภคควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกดื่ม

ชาไทยถูกแบนจริงหรือ ชาไทยไม่ใส่สี ทางเลือกใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมบทความนี้ไปไขข้อสงสัยทุกประเด็นเกี่ยวกับเครื่องดื่มนี้
  • ลดความกังวลเรื่องสารเคมีและสีสังเคราะห์ : ข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือการที่ผู้บริโภคลดความกังวลเกี่ยวกับสารเคมีและสีสังเคราะห์ที่อาจมีอยู่ในชาไทยแบบดั้งเดิม ทำให้รู้สึกปลอดภัยและสบายใจในการดื่มมากขึ้น
  • อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่แพ้สีสังเคราะห์บางชนิด : สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้หรือไวต่อสีสังเคราะห์บางชนิด ชาไทยไม่ใส่สีถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและอาจช่วยให้พวกเขาสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติของชาไทย ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาการแพ้
  • เน้นรสชาติและกลิ่นหอมของชาและส่วนผสมอื่น ๆ อย่างแท้จริง : เมื่อไม่มีสีสังเคราะห์มาแต่งเติม ผู้บริโภคจะได้สัมผัสกับรสชาติและกลิ่นหอมที่แท้จริงของใบชาที่ใช้ในการทำชาไทยได้อย่างเต็มที่
  • ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ : ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ชาไทยไม่ใส่สีจึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องดื่มที่มีความเป็นธรรมชาติและมีสารปรุงแต่งน้อยที่สุด
  • สีสันอาจไม่ดึงดูดเท่าชาไทยแบบดั้งเดิมสำหรับบางคน : สีส้มสดใสเป็นเอกลักษณ์ที่คุ้นเคยของชาไทย การที่ชาไทยไม่ใส่สีมีสีอ่อนกว่าอาจทำให้บางคนรู้สึกว่าไม่น่าดึงดูดเท่าที่ควร หรืออาจไม่ตรงกับความคาดหวังเดิม
  • รสชาติอาจแตกต่างจากความคุ้นเคยเดิมเล็กน้อย : แม้ว่าส่วนผสมหลักจะยังคงเดิม แต่การไม่มีสีสังเคราะห์อาจส่งผลต่อรสสัมผัสโดยรวม ทำให้รสชาติแตกต่างจากชาไทย ที่คุ้นเคยไปบ้างเล็กน้อย
  • อาจมีราคาสูงกว่าเล็กน้อยเนื่องจากวัตถุดิบหรือกระบวนการผลิต : การเลือกใช้ชาคุณภาพดี หรือกระบวนการผลิตที่เน้นความเป็นธรรมชาติ อาจส่งผลให้ราคาของชาไทยไม่ใส่สี สูงกว่าชาไทยแบบดั้งเดิมได้

โดยรวมแล้วการเลือกดื่มชาไทยไม่ใส่สี หรือชาไทยแบบดั้งเดิมนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและความใส่ใจในเรื่องสุขภาพของแต่ละคน ผู้บริโภคควรพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียต่าง ๆ เหล่านี้ก่อนตัดสินใจ

การที่ “ชาไทยไม่ใส่สี” กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น มีปัจจัยหลายประการที่เข้ามาสนับสนุนกระแสชาไทยรูปแบบใหม่นี้ ประการแรกคือ กระแสรักสุขภาพที่เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปัจจุบัน ผู้บริโภคหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้น เลือกบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ และพยายามหลีกเลี่ยงสารปรุงแต่งที่ไม่จำเป็น ซึ่งชาไทยไม่ใส่สีตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ความกังวลเรื่องสารปรุงแต่ง ต่าง ๆ ในอาหารและเครื่องดื่มก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญผู้บริโภค เริ่มตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพจากการบริโภคสารปรุงแต่งในระยะยาว ทำให้พวกเขามองหาทางเลือกที่มีส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น และลดการใช้สารเคมีสังเคราะห์ การตลาดและโซเชียลมีเดียก็มีบทบาทสำคัญในการโปรโมทและสร้างความนิยมให้กับชาไทยไม่ใส่สี การนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดูดีต่อสุขภาพ และการรีวิวจากผู้บริโภคบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ช่วยกระตุ้นให้เกิดความสนใจและอยากทดลองในวงกว้าง

ชาไทยถูกแบนจริงหรือ ชาไทยไม่ใส่สี ทางเลือกใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมบทความนี้ไปไขข้อสงสัยทุกประเด็นเกี่ยวกับเครื่องดื่มนี้

สุดท้ายความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญผู้บริโภค มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ และมีกระบวนการผลิตที่ไม่ซับซ้อน ซึ่งชาไทยไม่ใส่สี สามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้ ทำให้เป็นทางเลือกใหม่ ที่น่าสนใจ และกำลังได้รับความนิยมในตลาดเครื่องดื่ม เมื่อมองไปยังอนาคต ของตลาดเครื่องดื่มแล้ว “ชาไทยไม่ใส่สี” มีแนวโน้ม ที่จะเติบโตและได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน ด้วยแนวโน้มของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและมองหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำให้ชาไทยไม่ใส่สีมีโอกาส ที่จะขยายฐานลูกค้าและกลายเป็นทางเลือกหลักสำหรับคนรักชาไทย สำหรับผู้ผลิตและผู้ประกอบการ นี่ถือเป็นโอกาสอันดีในการพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ชาไทยไม่ใส่สี ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบพร้อมดื่ม แบบผงชง หรือแม้แต่ในร้านค้าและคาเฟ่ต่างๆ การสร้างสรรค์สูตรและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองจะช่วยดึงดูดผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ เช่น การรักษามาตรฐานรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของชาไทย โดยไม่มีสีสังเคราะห์เข้ามาช่วย รวมถึงการสร้างความเข้าใจและความคุ้นเคยให้กับผู้บริโภคที่ยังคงมีภาพจำของชาไทยคือเครื่องดื่มสีส้มสดใส การสื่อสารและให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับชาไทยไม่ใส่สี จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยรวมแล้วอนาคตของ “ชาไทยไม่ใส่สี” ในตลาดชาไทย ดูสดใสและมีศักยภาพในการเติบโตสูง หากผู้ผลิตและผู้ประกอบการสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้ จากที่เราได้ทำความเข้าใจกันมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่าชาไทย โดยรวมนั้นไม่ได้ถูกแบน อย่างที่หลายคนเข้าใจผิด แต่ประเด็นหลักอยู่ที่ความกังวลเกี่ยวกับสีผสมอาหารที่ใช้ในการผลิต ซึ่งนำไปสู่การเกิดขึ้นของ “ชาไทยไม่ใส่สี” ในฐานะทางเลือกใหม่ ที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพและความเป็นธรรมชาติเราขอส่งเสริมความคิดให้คุณลองเปิดใจและทดลองชาไทยไม่ใส่สีดูสักครั้ง เพื่อสัมผัสรสชาติและกลิ่นหอมที่แท้จริงของชาไทยโดยปราศจากสีสังเคราะห์ คุณอาจจะพบว่าชาไทยในรูปแบบใหม่นี้ก็อร่อยและน่าสนใจไม่แพ้กัน

ชาไทยถูกแบนจริงหรือ ชาไทยไม่ใส่สี ทางเลือกใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมบทความนี้ไปไขข้อสงสัยทุกประเด็นเกี่ยวกับเครื่องดื่มนี้

สำหรับใครที่ต้องการเปิดร้านชา-กาแฟ หรือกำลังมองหาแหล่งวัตถุดิบหลักอย่างเช่น เมล็ดกาแฟ และใบชา คุณภาพดี ที่เป็นวัตถุดิบที่ร้านชา-กาแฟขาดไม่ได้ !! Bluemocha โรงงานผลิตชาเชียงใหม่ เรามีสินค้าในมือมากกว่า 40 รายการ ที่มาจากแหล่งเพาะปลูกจากภาคเหนือ และนำเข้าจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ชาเขียวพรีเมียม ชาไทยเชียงใหม่ ชาไต้หวัน ชาสด ชากุหลาบ ชาพีช ชาดำ ผงโกโก้ ผงมัทฉะ ผงกาแฟโบราณ เมล็ดกาแฟ ผงครีมชีส และอื่น ๆ อีกมากมาย เพียงแค่รู้จักเลือกใช้วัตถุดิบหลักอย่างใบชาเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ ก็จะช่วยชูเครื่องดื่มที่อร่อยกลมกล่อมให้กับลูกค้าได้

นอกจากนี้ใครที่อยากที่ได้ชาสูตรของตัวเองเฉพาะ Bluemocha เรามีบริการผลิตชา OEM&ODM ที่มีมาตรฐานรับรอง มีทีมงานดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นให้คำปรึกษา จัดหาวัตถุดิบ ดูแลในส่วนของกระบวนการผลิต การบรรจุ ตลอดจนไปถึงการหาบริการขนส่งที่เหมาะสม เพื่อให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย และมีคุณภาพที่ดี สามารถผลิตชาได้หลากหลายชนิด ทั้งยังมีบริการรับพัฒนาสูตรชา และแกะสูตรชาได้ตามความต้องการของลูกค้า Bluemocha มีบริการที่ครบวงจร สามารถช่วยให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจได้ทันที เพราะเรารับผลิตชาหลากหลายชนิด และส่งออกชาไปต่างประเทศอีกด้วย Bluemocha เป็นโรงงานคั่วชาในจังหวัดเชียงใหม่ ที่รับผลผลิตในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงนำเข้าจากต่างประเทศ และโรงงานผ่านมาตรฐานสากล มีแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และมากมาย มีกำลังการผลิตที่สูง สามารถรองรับการผลิตตามออเดอร์ที่มีจำนวนเยอะได้พอสมควร ทำให้เราสามารถที่จะทำความต้องการของลูกค้าได้

ชาไทยถูกแบนจริงหรือ ชาไทยไม่ใส่สี ทางเลือกใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมบทความนี้ไปไขข้อสงสัยทุกประเด็นเกี่ยวกับเครื่องดื่มนี้

หากสนใจทำแบรนด์กับ Bluemocha เริ่มต้นทำแบรนด์ได้เลยเมื่อสั่งผลิต 51 กิโลกรัมขึ้นไป เรามีบริการ ออกแบบโลโก้ฟรี จดอย.ให้ฟรี เมื่อสั่งผลิต100 กิโลกรัมขึ้นไป ยื่นขอรับรองฮาลาล (HALAL) เมื่อสั่งผลิต 500 กิโลกรัมขึ้นไป, ปรับสูตรชาได้ตามความต้องการของลูกค้า, มีตัวอย่างให้ทดลองฟรี และยื่นขอใบสำหรับลูกค้าที่ต้องการส่งออกไปต่างประเทศ

นอกจากนี้ Bluemocha ยังสามารถที่จะจัดส่งไปยังต่างประเทศ เพราะเรารับสร้างแบรนด์ชาให้กับผู้ที่อยากจะส่งออกชาไปยังต่างประเทศ ด้วยบริการที่ครบวงจร พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำปรึกษากับลูกค้าตลอดการสั่งซื้อ เราขนส่งสินค้าได้สะดวก รวดเร็ว ทั้งขนส่งทางเรือ และเครื่องบิน เพื่อให้ได้สินค้าที่ปลอดภัย และมีคุณภาพที่ดี หากสนใจสั่งซื้อ เรามีโปรโมชั่นจัดส่งฟรีทั่วประเทศ เมื่อสั่งซื้อ 5,000 Kg. ขึ้นไป และฟรีค่ายื่นจดอย. เมื่อสั่งซื้อ 100 Kg. ขึ้นไป Bluemocha พร้อมให้บริการลูกค้าทุกท่าน

Similar Posts